เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 สภาเกษตรกรจังหวัดลำปางและสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ได้จัดการประชุมเพื่อหารือแนวทางใช้ประโยชน์และต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากส่วนของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จังหวัดลำปาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเมืองเขลางค์นคร และผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดลำปาง กว่า 20 ร้าน
โดยการประชุมฯ ครั้งนี้ นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในการประชุมฯ และนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ได้ชี้แจงความเป็นมาและความสำเร็จของโครงการเพาะปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ (Crop 1) และที่ดำเนินการเพาะปลูกกัญชานอกโรงเรือนตามแนวทางของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา ในปีการผลิต 2564 (Crop 2) ซึ่งได้รับความสนใจและมีเสียงตอบรับที่ดี ทั้งจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ป่วย และประชาชนโดยทั่วไปอย่างมาก
จังหวัดลำปาง โดยนายจำลักษณ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง จึงเห็นควรให้มีการสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชกัญชาในการนำมาประกอบอาหาร ซึ่งจะเป็นการต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของจังหวัดลำปางได้ โดยแนะนำให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมประชุมฯ ครั้งนี้ นำพืชกัญชาไปประกอบอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมืองอัตลักษณ์ของจังหวัดลำปาง หรืออาหารพื้นเมืองฟิวชั่น ที่สร้างความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน เช่น จะกินไส้อั่วแม่แหที่มีส่วนผสมของกัญชา ต้องไปร้านไหน หรือซี่โครงหมูรมควันผสมใบกัญชา ต้องไปร้านไหน เป็นต้น
จากการประชุมหารือฯ ครั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้สภาเกษตรกรจังหวัดลำปางและสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง จัดมหกรรมอาหารที่มีส่วนผสมของพืชกัญชา ในวันที่ 19 มีนาคม 2564 ณ บริเวณลานรถม้า ห้างเซนทรัลพลาซ่าลำปาง โดยกำหนดกิจกรรม ดังนี้
1) ให้มีการจัดบูท โดยให้ร้านอาหารที่เข้าร่วม (นำร่อง) ผลิตเมนูอาหารที่เป็นเมนู Signature (เอกลักษณ์) โดดเด่นเฉพาะของแต่ละร้าน จำนวน 1-2 รายการ เพื่อนำไปแสดงสินค้าให้ประชาชนทั้งในจังหวัดลำปางและต่างจังหวัดได้รับประทาน อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารด้วย
2) ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางจัดบูทวิชาการด้านการแพทย์ เพื่อเป็นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนโดยทั่วไป และผู้บริโภค
3) ให้มีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้การผลิต (ปลูก) กัญชาภายในงานมหกรรม